Sun. Jun 4th, 2023
เครือข่ายประชาชนตั้งเวทีอภิปรายคู่ขนาน พ.ร.บ.กัญชาฯ 19 ธ.ค.นี้ “ประสิทธิ์ชัย”ฟาดก้าวไกล-เพื่อไทยทำโพลชี้นำ



เครือข่ายประชาชน ตั้งเวที “สภาประชาชน” อภิปรายคู่ขนาน พ.ร.บ.กัญชาฯ 19 ธ.ค. “ประสิทธิ์ชัย” โพสต์ฟาดเพื่อไทย-ก้าวไกล ทำโพลชี้นำให้กัญชาเลวร้าย ย้ำมีกฎหมายเท่านั้นที่จะจัดการได้อย่างเป็นธรรม

วันนี้(17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายภาคประชาชน นำโดย สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มหมอยาพื้นบ้าน เตรียมจัดเวทีเสวนาในรูปแบบ “สภาประชาชน” ซึ่งจะมีการอภิปรายคู่ขนานกับ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ในวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม โดยการอภิปรายจะมุ่งเน้นทั้งในเชิงกฎหมาย และ เหตุผลสนับสนุนข้อกฎหมาย รวมทั้งให้ข้อมูลข้อเท็จจริง หักล้างข้อมูลในการอภิปรายในสภาที่มีความคลาดเคลื่อนจากความจริงค่อนข้างมาก

โดยผู้อภิปรายประกอบไปด้วย ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลถึงความจำเป็นของ พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่จะทำให้การวิจัยก้าวหน้าและสร้างการเรียนรู้ของสังคม โดยการวิจัยครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงส่งออก ,นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล แกนนำเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย จะอภิปรายว่าด้วย ระบบอนุญาต การปลูกกัญชา กัญชง ครอบคลุมระบบการใช้ การแปรรูป การโฆษณา การคุ้มครองผู้บริโภค ,รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะนำประสบการณ์การใช้กัญชาในต่างประเทศ กฎหมายของสหประชาชาติที่ในสภาชอบอ้างอิง รวมถึงอันตรายต่อเด็กและเยาวชนตามที่สภาชอบกล่าวอ้าง

รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์
และยังมีกลุ่มหมอพื้นบ้านจากเกาะพะงัน นำโดย นายสนธยา แซ่โย้ ที่ช่วยคนเจ็บป่วยด้วยกัญชามานับหมื่นคนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และยืนยันว่ากัญชาคู่เกาะพงันมาหลายชั่วอายุคน ไม่มีปัญหาเยาวชนติดกัญชา นอกจากนี้อาชกรรมที่เกาะก็ไม่มากกว่าที่อื่น ,นายธนโชติ เธียรรุ่งโรจน์ ตัวแทนวิสาหกิจขุมชน ทำงานใกล้ชิดกับศูนย์บำบัดยาเสพติดของชุมชน ย้ำว่า การปลูกกัญชาของชาวบ้านไม่เป็นเหตุให้คนติดกัญชากันทั้งประเทศ แต่ปัญหาคือยาบ้ามากกว่า

นายสนธยา แซ่โย้
นอกจากนี้ นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้กรณี พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ทำโพลเสนอให้เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด โดยผลโพลออกมาว่าส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ถ้าใช้คำถามเช่นนี้ ต่อให้ทำโพลอีกกี่ครั้งผลก็จะออกมาเป็นเช่นนี้ เพราะกัญชาคือยาเสพติดมันถูกฝังหัวมานับ 40 ปี อานุภาพของกลุ่มอิทธิพลในศตวรรษที่ 19 ที่ทำให้กัญชาเป็นยาเสพติด เพราะกัญชาขัดขวางการเติบโตของบริษัทยา ยังคงแผ่อิทธิพลไปทั่วโลก เพราะหลังจากนั้นกลุ่มอิทธิพลในประเทศอเมริกาก็ผลักดันให้เป็นกฎหมายของสหประชาชาติ

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล
นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า ปฏิบัติการของกลุ่มอิทธิพลในสหรัฐอเมริกาคราวนั้น ส่งผลให้พืชพื้นเมืองชนิดนี้ผิดกฎหมายไปทั่วโลก ทั้งที่ประชาชนใช้ประโยชน์จากมันมายาวนาน ผลลัพธ์อันนี้ส่งผลถึงประเทศไทยเช่นกัน เราถูกฝังหัวมามานว่ามันคือยาเสพติด และถูกผลิตเหตุการณ์ให้กัญชามันเลวร้าย เฉกเช่นเหตุการณ์ในศตวรรษที่ 19 ในอเมริกาที่กลุ่มทุนผลิตภาพยนต์ให้คนผิวดำเสพกัญชาข่มขืนผู้หญิงผิวขาว เพื่อสร้างสำนึกว่ากัญชาเลวร้ายและเป็นของพวกผิวดำ เพราะขณะนั้นอเมริกายังเหยียดผิว พร้อมกับการเปลี่ยนชื่อกัญชาเป็น มาลีฮวนน่า เพื่อให้กัญชาเป็นของชนกลุ่มน้อยในอเมริกา จากเหตุการณ์ในอเมริกาเมื่อวันนั้นมาถึงวันนี้ในประเทศไทยก็ยังเกิดขึ้น แม้ว่าจะได้รับการปลดล๊อคก็ยังจะมีคนเอามันไปขังเป็นยาเสพติดใหม่ ถ้าคิดว่าจะบริหารจัดการพืชชนิดนี้ต้องใช้ปรัชญาของประชาธิปไตย นั่นคือให้ทุกคนเข้าถึงอย่างเป็นธรรมและควบคุมมันด้วยกฎหมายปกติ

“เพราะมีแต่กฎหมายปกติเท่านั้นที่จะจัดการพืชกัญชาได้อย่างเป็นธรรม เมื่อไหร่ก็ตามที่เรานำสิ่งใดไปสู่ที่คับแคบจะมีบางคนเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ เพราะความคับแคบไม่มีที่ทางเพียงพอสำหรับผู้คนอีกมากมาย การนำกัญชาสู่ยาเสพติด จะเกิดเงื่อนไขเฉพาะที่ผู้คนจะเข้าถึงได้ และเงื่อนไขเฉพาะเช่นนี้แหละที่จะทำให้กัญชาไปอยู่ในมือของคนที่เข้าเงื่อนไข และแน่นอนที่สุดคนที่เข้าเงื่อนไขไม่ใช่ประชาชนทั่วไป พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลควรจะตระหนักต่อสิ่งนี้เพราะมันเกิดขึ้นอยู่ในวงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตราบใดก็ตามที่พวกคุณเอากัญชาไปสู่ยาเสพติดเท่ากับเอากัญชายื่นไปให้บุคคลเพียงกลุ่มเดียว ภายใน 1-3 ปีนี้ไม่ว่าพวกคุณทำโพลอีกกี่ครั้งผลก็จะออกมาเช่นนี้ เพราะการลบล้างความเชื่อเดิมนั้นยากเย็นยิ่ง มันอยู่ที่ว่าพวกคุณจะใช้ข้อเท็จจริงหรือความรู้สึกของผู้คนกำหนดกลไกการควบคุมกัญชาของประเทศนี้” แกนนำเครือข่ายประชาชนฯ กล่าว



Source link

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *