ข่าวปนคน คนปนข่าว
**”เสี่ยตา”เวิร์คพอยท์ เขี่ย “กิ๊กไลฟ์-ซูโม่กิ๊ก” พ้นผังข่อง งานนี้โหนดรามาบูลลี่-การเมือง? เพื่อรักษาธุรกิจ ??
ว่าด้วยกระแส“ซูโม่กิ๊ก – เกียรติ กิจเจริญ”พิธีกรชื่อดัง ซึ่งเจอ 2 ดรามาซ้อนติดๆกัน จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลฯ ข่าวล่าเห็นว่า รายการ” Gig Life”ของซูโม่กิ๊ก หายไปจากผังช่องเดือนเม.ย. ซึ่งก็คาดกันว่า”เสี่ยตา” ปัญญา นิรันดร์กุล เจ้าของช่องเวิร์คพอยท์ คงตัดสินใจหั่นทิ้ง
สาเหตุที่ถูกเขี่ยยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเกิดจากอะไร บ้างก็ว่ารายการ GIG Life ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้ข่าวเสาร์-อาทิตย์ ที่”ซู่โม่กิ๊ก”รับเป็นพิธีกรหลักนั้น ในรายการช่วงก่อนนี้มีประเด็นที่ซูโม่กิ๊กพูดถึง “นางงามพม่า” ที่ออกมาเรียกร้องยุติความรุนแรงในบ้านเกิดบนเวทีประกวดว่า เป็นเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านอย่าไปสนใจ ตามด้วยดรามาที่พูดแล้วถูกมองว่าไปเหยียดเพศสภาพ LGBTQ+ในอีกสัปดาห์ต่อมา
ดรามาทั่งสองเรื่อง หากจะบอกว่าเป็นเพราะปากของซูโม่กิ๊กที่เข้าทำนอง”ปลาหมอตายเพราะปาก” ก็ว่าได้ แม้ว่าเจตนาจะต้องการสื่อให้สนุกสนานตามสไตล์ของตัวเองที่ถนัด และอาจจะเป็นที่ “คอนเซปต์” รายการที่วางไว้ว่า จะเป็นรายการวาไรตี้ข่าวแนวใหม่ กล้าเปิดทุกข่าว เล่าทุกดรามา ถ่ายทอดสดออกมาให้สนุก … แต่ปัญหามีว่าคนฟังและชาวเน็ตทั้งหลายไม่รู้สึกสนุกไปด้วย
เรื่องเมียนมา หลายคนมองว่าคำพูดของ”ซูโม่กิ๊ก”ไร้มนุษยธรรมเกินไป เป็นตลกร้ายเพราะการประท้วงที่เมียนมา มีคนถูกฆ่ามากมายความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกันต้องมี
ขณะที่เรื่อง LGBTQ+เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ไม่ใช่เรื่องตลก “ซูโม่กิ๊ก”ถูกมองว่าตกยุค และไม่เข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ
แน่นอนว่า พอเกิดดรามา “ซูโม่กิ๊ก” ถูกโจมตีอย่างหนัก ทั้งจากชาวโซเชียลฯทั่วไป และฝ่ายที่ไม่ชอบเขาเป็นทุนในแง่ของการแสดงออกความเป็น “สลิ่ม” โพสต์ด่าแรงๆ ถึงกลุ่มตรงกันข้ามอยู่เนืองๆ “กลุ่มการเมือง” นี้พอเห็นว่า พิธีกรดังพลาดมาจึงถือโอกาสกระทืบซ้ำ เท่ากับ”ซูโม่กิ๊ก” เจอ 2 แรงบวก เป็น “กฐินสามัคดี” สหบาทารุมกินโต๊ะเข้าให้
นอกจาก กฐินสามัคคี รวมพลคนเกลียด-เกียรติ และประเด็นการเมืองแล้วก็มีคนที่ข้องใจว่า “เสี่ยตา” เวิร์คพอยท์ อาจจะมีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ ? ก็มีคนไปค้นเจอว่า เอาเข้าจริงๆ รายการ”Gig Life”ที่จะหลุดผังก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะรายการนี้ไม่ได้สร้าง”เรตติ้ง” ให้กับช่อง เรตติ้งรายการดังกล่าวตั้งแต่ออกอากาศมาสูงสุดได้แค่ 0.5 ไม่ถึงมาตรฐานของช่อง ซึ่งมาตรฐานน่าจะสูงกว่านี้
งานนี้ ไม่ว่ารายการของซูโม่กิ๊ก จะถูกหั่นด้วยเหตุผลใด หรือเรื่องสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง “ซู่โม่กิ๊ก” กับ “เสี่ยตา” จะแนบแน่นเพียงใดไม่ได้แปลว่า จะทำให้ซู่โม่กิ๊กอยู่เซฟโซนไปตลอด ก็ต้องไม่ลืมว่า เวิร์คพอยท์ ของเสี่ยตา นั่นไม่ธรรมดาซึ่งปกติที่ผ่านๆมา ถือเป็นช่องทุนที่ชอบเล่นกับกระแส จับกระแสเก่งอยู่แล้ว เมื่อเรตติ้งไม่เข้าเป้า จังหวะนี้ก็ขอโหนกระแสเชือดนิ่มๆ กันไป … นี่เป็นเรื่องของธุรกืจที่”เสี่ยตา” ต้องรักษาไว้ก่อน ผิดถูกว่ากันทีหลัง…
ถูกต้องมั้ยคร้าบบบ !!
**สปิริต”เจ๊ไฝ มิชลิน” ปิดร้านเคลียร์โควิด ที่ “คุณหญิงต้น-ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี” ต้องเข้ามาขอโทษ
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ทำให้หลายคนกังวล อกสั่นขวัญแขวน ซึ่งปัญหาที่ไม่ยอมจบยอมสิ้นมาจากคนที่ไร้จิตสำนึกตามคำพูดของ”ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ปรากฏว่า มีเหตุการณ์ที่ชาวโซเชียลฯ พูดถึงด้วยความชื่นชมในสปิริตและจิตสำนึกต่อสังคม
เมื่อ “ร้านเจ๊ไฝ” ย่านประตูผี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก จากการเป็นร้านอาหารริมทางแห่งแรกของโลกที่ได้ 1 ดาว จากมิชลินไกด์ โพสต์อินสตาแกรมว่า “เนื่องจากทางร้านเพิ่งได้รับคอนเฟิร์มว่า มีลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน 2564 ช่วงเวลา 18.00-21.00 น. ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
“ร้านเจ๊ไฝ” จึงมีมาตรการปิดร้านชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดใหญ่ภายในร้านและบริเวณโดยรอบ รวมทั้งฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัส โดยบริษัทที่ได้มาตรฐานและจะทำการ Swab Testให้กับบุคลากรทุกคนภายในร้าน เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทันที ร้านเจ๊ไฝ จะทำการปิดชั่วคราวและจะอัปเดตสถานะของร้านอีกครั้งทางอินสตาแกรม จึงเรียนมาเพื่อทราบ และอภัยเป็นอย่างสูงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
จากนั้น “คุณหญิงต้น” ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี ได้เข้ามาโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวของเจ๊ไฝ ว่า “ต้นและคุณนิดหน่อย (จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี-สามี) ต้องขอโทษเจ๊และทางร้านอย่างยิ่งนะคะ ทำให้ต้องวุ่ยวาย หวังว่าทุกคนจะปลอดภัยและทุกอย่างเรียบร้อยโดยเร็วค่ะ”
ก่อนหน้านี้มีภาพออกมาว่า “คุณหญิงต้น” ได้พาท่านทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ไปรับประทานอาหารที่ร้านเจ๊ไฝ และมีรายงานต่อมาว่า “เจ๊ไฝ” ได้เริ่มเข้าสู่การกักตัวแล้ว ส่วน”คุณหญิงต้น” ก็น่าจะต้องเข้ากระบวนการกักตัวตามระเบียบเช่นกัน
เรื่องนี้ ชาวโชเชียลฯ จำนวนมากจึงพากันส่งกำลังใจให้ “เจ๊ไฝ” หรือ เปีย-สุภิญญา จันสุตะ ซึ่งอายุกว่า 76 ปีแล้ว แต่ยังเป็นเจ้าของร้านสตรีทฟู้ด ที่ทั้งเป็นแบบอย่างของคนสู้ชีวิตทำทุกอย่างด้วยตัวเองจนถึงทุกวันนี้ กันอย่างล้นหลาม